วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553

Cher Resort Huahin

            Cher Resort Huahin

               (เฌอ รีสอร์ท หัวหิน)


             รีสอร์ทสไตล์ Modern-Nature (เลยแยกไฟแดง ชะอำมา 9กม และอยู่ก่อนถึง หัวหิน 14กม)ตัว resort จะอยู่ใกล้ Marriot Courtyard และ ร้านอาหารปลาทูอันโด่งดัง

             การตกแต่งของที่นี่ จะเป็นสไตล์ Modern-Nature คือมีการใช้สีเทา ดำให้ดู modern แต่การออกแบบจะเป็นแนวธรรมชาติ (โดยมี logo เป็นรูปต้นไม้)

ที่นี่ จะมีห้องพักอยู่ 36 ห้อง โดยแบ่งเป็น5 ประเภท (เรียงตามราคาจากน้อยไปมาก)

1. Panoramic Seaview เป็นห้องที่อยู่ที่ตัวตึก  อยู่ที่ชั้น 3 และชั้น 4 (มีทั้งหมด 14 ห้อง)

2. The Sea Spirit เป็นห้องพักที่อยู่ชั้น2 (ระดับเดียวกับ lobby ไม่ได้อยู่ที่ตัวตึก แต่ยื่นออกจา lobby ไปทางหน้าหาดเล็กน้อย ขนาดห้องจะใหญ่ขึ้นกว่าแบบแรก โดยมี Daybed เพิ่มมาให้ (มีทั้งหมด 6 ห้อง)

3. The Pool Paradise เป็นห้องที่มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่หน้าห้อง  มีทั้งหมด 6 ห้อง

4. Blissfully Green Villa (หรือบางคนเรียกว่า Garden Villa) จะเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอีก จะมีสวนส่วนตัวโดยมีอ่าง Barthtub ขนาดใหญ่อยู่กลางสวน (ห้อง type นี้มี 8 ห้อง) ซึ่งอยู่ส่วนด้านหน้า ใกล้ชายหาด

5. Sky Jacuzzi Beach Front Villa เป็นห้องที่มีพื่นที่ใช้สอยใหญ่สุด และอยู่ด้านหน้าติดทะเลที่สุด มีน้ำตกส่วนตัวภายในสวน(ส่วนตัว) และมีอ่าง Jacuzzi ส่วนตัวอยู่บนชั้น2 ของห้องด้วย (outdoor) ห้องชนิดนี้มีแค่ 2 ห้องเท่านั้น














บริเวณ Lobby จะมีห้องสมุด (เล็ก) และมี เครื่องคอม(Mac) ให้ใช้ 1 เครื่องครับ






ข้อดี

- โรงแรมโดยรวม และห้องที่พัก ตกแต่งสวยงาม และสภาพใหม่มากๆ เพราะเพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน

- ชอบที่มีลำโพงด้านนอกในสวน (ในห้อง Garden villa) สามารถปรับระดับเสียงได้ด้วย

- ภายในห้องมี check list เพื่อให้ลูกค้าติ๊กได้ว่ามีอะไรเสีย หรือใช้งานได้ไม่ดี (เช่นห้องผมไฟหลักตรงที่นอนมันกระพริบ และน้ำอุ่นมันไม่ร้อนเลย ตอนออกไปทานข้างข้างนอกก็ทิ้งnote ไว้ให้แม่บ้านมาดู เมื่อกลับมาทุกอย่างก็เรียบร้อยใช้ได้ดี)

- ร้านอาหาร Z-Weed ลมเย็นตลอดทั้งวัน

- ราคาอาหาร ถ้าสั่งพวกผัดกระเพราะก็ประมาณ 160 จริงอยู่ว่าแพงกว่าข้างนอกมาก แต่ถ้านับว่าสั่งในโรงแรมหรูๆแบบนี้ ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ และปริมาณก็ให้เยอะมาก

- ขอเลทเช็คเอาท์ได้ถึง บ่ายโมงครึ่ง (ขึ้นอยู่กับว่ามีแขกมาต่อหรือเปล่า)

- มี 7-11 อยู่หน้าปากซอยทางเข้า (แต่ต้องขับรถออกมา)


ข้อด้อย
- บริการยังไม่ค่อยปน่าประทับใจ พนักงานไม่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี

- พนังานยังทำงานไม่คล่องแคล่ว
- ไม่มีสปา

ตลาดน้ำอัมพวา

ตลาดน้ำอัมพวา

         ในอดีตอัมพวาถือว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม มีตลาดน้ำขนาด ใหญ่และชุมชนริมน้ำที่เป็นศูนย์กลางด้านพาณิชยกรรม แต่ผลกระทบของการพัฒนาการคมนาคมทางบก ทำให้ ความเป็นศูนย์กลางฯ ของอัมพวาต้องสูญเสียไป ตลาดน้ำค่อยๆลดความสำคัญและสูญหายไปในที่สุด ทิ้งไว้แต่ ร่องรอยของความเจริญในอดีตซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นชัดเจนในทุกวันนี้ทางเทศบาลตำบลอัมพวาโดยความร่วมมือ ร่วมใจของประชาชนในท้องถิ่น ได้ฟื้นฟูตลาดน้ำอัมพวาขึ้นมาอีกครั้งเพื่ออนุรักษ์ความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำ ซึ่งในปัจจุบันจะหาดูได้ยาก ให้สืบทอดตลอดไป โดยใช้ ชื่อว่า "ตลาดน้ำอัมพวายามเย็น"
ตลาดน้ำอัมพวา จะมีทุกวันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ตลาดน้ำโดย ทั่วไปมัก จะจัดขึ้นในเวลากลางวัน แต่ตลาดน้ำยามเย็น ที่อัมพวาแห่งนี้ จะจัดขึ้นในช่วงงเวลาเย็นเรื่อยไปจนถึงเวลาพลบค่ำ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นตลาดน้ำแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดในลักษณะเช่นนี้ ในตอนเย็นชาวบ้านจะเริ่มทยอย พายเรือนำสินค้าหลากหลายนานาชนิด อาทิ อาหาร ผลไม้ พืชผัก ขนม ของกินของใช้ มาขายให้กับนักท่องเที่ยว หรือคนในท้องถิ่นที่สัญจรไปมาที่ตลาดอัมพวา ทำให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติของชีวิตของชุมชนริมน้ำ ซึ่งเป็นที่น่า ประทับใจอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถที่จะหาซื้ออาหารมานั่งรับประทาน บริเวณริมคลองอัมพวาติดกับตลาดน้ำ ซึ่งได้มีการจัด สถานที่ไว้ ทำให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น


กิจกรรมของการท่องเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา


1. ชิมอาหารพื้นบ้านทั้งคาวหวาน

ใครที่มาเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาแล้วไม่ได้มาชิม อาหารพื้นบ้านที่แม่ค้าและพ่อค้าพายเรือ มาขายให้เลือกซื้อเลือก ชิม กิน รวมถึงอาหารที่ขายอยู่ตามร้านอาหารบนฝั่งก็มีให้เลือกชิมเช่นกัน หากใครมาเที่ยวที่นี่ เมนูเด็กที่ไม่ควร พลาด คือ ปลาหมึกและกุ้ง ที่ย่างกันสดๆบนเตาพร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บ ก๋วยเตี๋ยวเรือเลิศ รวมถึงขนมพื้นบ้านอย่าง ขนมไข่ที่มีวุ้น หลากสีสรรอยู่ข้างในน่ารับประทานยิ่งนัก ขนมหวานก็มีทองหยิบ ทองหยอด ขนมสอดไส้ เยอะแยะ มากมาย กินไป อยากหาเครื่องดื่มแก้กระหายน้ำก็มีกาแฟโบราณ น้ำผลไม้สมุนไพรต่างๆ ที่มีขายอยู่ทั่วไป ทั้งบน สองข้างทาง

Photobucket


 2. เดินเยี่ยมชมร้านค้าขายของที่ระลึกและวิถีชีวิตชาวบ้าน

ตลาดน้ำอัมพวาทั้งสองข้างทางไม่ว่าจะฝั่งริมน้ำมีของที่ระลึกให้เราได้เข้าไปเลือกซื้อเลือกหามาฝากคนที่บ้าน เริ่มตั้งแต่ ของที่ระลึกยอดฮิตของตลาดน้ำอัมพวาที่เดินไปทางใดก็เหน็อยู่ตลอดทาง คือ โปสการ์ด ซึ่งบอกเล่า เรื่องราวของเมือง อัมพวานี้ได้เป็นอย่างดี หรือใครอยากได้เสื้อเก๋ๆจากที่นี่ซักตัวก็ลองเลือกแบบเลือกลายดูได้ แบบเก๋ไม่ซ้ำใคร เดินชม ไปตลอด 2 ฝั่ง ก็ชมวิถีชีวิตบ้านเรือนไม้สมัยก่อนไปด้วยก็เพลินดีแท้




Photobucket



3. ล่องเรือชมวิถีชีวิตริมน้ำ


ก่อนที่จะมาเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาในตอนเย็น นักท่องเที่ยวบางคนก็นิยมล่องเรือชมทิวทัศน์ของแม่น้ำแม่กลองเพื่อชม วิถีชิตและบ้านเรือนริมน้ำ ที่จะได้เห็นตลอดทางที่เรือแล่นไป หรืออาจจะแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างที่น่าสนใจ เช่นวัดบางแคน้อบ ค่ายบางกุ้ง โบสต์คริสต์ เป็นต้น

 

4. ล่องเรือชมหิ่งห้อย

ถือเป็นไฮไลต์เด็ดของการมาท่องเที่ยวที่นี่เลยก็ว่าได้นักท่องเที่ยวที่มีความประสงค์จะนั่งเรือชม ประกายความ งามยาม ค่ำคืนชมหิ่งห้อย หรือล่องเรือท่องเที่ยวตามลำน้ำแม่กลอง ก็สามารถติดต่อเรือได้
ติดต่อโทร.089-415-4523 ,ท่าเรือคุณย่า 081-557-0824



Photobucket



การเดินทางไปตลาดน้ำอัมพวา


 1.ทางรถยนต์ 

จากตัวจังหวัดใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 325 ทางเดียวกับไปอำเภอดำเนินสะดวกและอุทยาน ร.2 ประมาณ 6 กม ก่อนถึงสามแยกไฟแดง มีทางแยกทางซ้ายเข้า อ.อัมพวา ไปอีกประมาณ 800 เมตร. ทางแยกซ้ายมือ เข้าตลาดอัมพวา จอดรถบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภออัมพวา


2.รถประจำทาง

จากสถานีขนส่งสายใต้ รถสาย 996 กรุงเทพฯ-ดำเนินฯ เป็นรถปรับอากาศ ผ่านจังหวัดสมุทรสงคราม ถึง ตลาดอัมพวา สาย 976 กทม.-สมุทรสงคราม ถึงสถานีขนส่งสมุทรสงคราม ขึ้นรถประจำทางสาย 333 แม่กลอง-อัมพวา-บางนกแขวก ถึงตลาดอัมพวา


3.รถตู้

ขึ้นที่อนุสาวรีย์ชัยฝั่งถ.พหลโยธินใต้ทางด่วน ไปอัมพวาด้วยนะครับเป็นรถตู้สาย กทม-แม่กลอง ค่ารถขาไป 70 บาท ตั้งแต่ 6.25-20.00 น. ค่ารถขากลับ 60 บาท ตั้งแต่ 5.30-19.00 น. (รถจอดแถวตลาดแม่กลอง) ลงที่ตลาดแม่กลอง แล้วเดินมาแถวตลาดจะมีคิวรถสองแถวสายที่ไปโรงเจตรงตลาดน้ำอัมพวา ค่ารถ 10 บาท



Photobucket
Photobucket